วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การไหว้ครูร่ายรำมวยไทยท่าเสา

การไหว้ครูร่ายรำมวยไทยท่าเสา
            นักมวยสมัยโบราณเชื่อถือในเรื่องเวทมนต์คาถา เครื่องรางของขลังมาก การไหว้ครูหรือพิธีกรรมต่าง ๆ มักจะถือปฎิบัติกันมาแต่โบราณ การไหว้ครูเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาปกป้องคุ้มครองตนเองให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากกระทำของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งขอพรให้ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันชกมวยด้วย ซึ่งการไหว้ครูร่ายรำมวยไทยท่าเสาถือเป็นเอกลักษณ์ของมวยภาคเหนือที่มีประวัติความเป็นมาที่โดดเด่นและมีส่วนช่วยกอบกู้บ้านเมืองดังเช่น พระยาพิชัยดาบหักศิษย์เอกครูเมฆแห่งสำนักท่าเสาเข้าตีเมืองพิชัยจากพม่าคืนได้สำเร็จจนได้รับการแต่งตั้งเป็นพระยาพิชัยดาบหักครองเมืองพิชัยเป็นต้นมา
ขั้นตอนการไหว้ครูร่ายรำมวยไทยสายท่าเสา
            1. เมื่อนักมวยมาถึงข้างเวทีให้นั่งคุกเข่าพนมมือทำจิตใจให้เป็นสมาธิน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระแม่ธรณีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เป็นเจ้าที่ปกปักรักษาสถานที่แห่งนั้น ให้มาปกป้อง
คุ้มครองตนและได้รับชัยชนะจากการแข่งขันชกมวยในครั้งนี้ ให้ถ่องคาถา ตั้งนะโม 3 จบ และท่องคาถา พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา นะโมพุทธายะ คาถาครูมวยแต่ละสำนักอาจไม่เหมือนกัน แล้วกลั้นลมหายใจพร้อมกล่าวว่า พระแม่ธรณีเอ๋ยอยู่แล้วหรือยัง ตัวเองพูดตอบในใจว่า อยู่แล้ว จากนั้นใช้มือหยิบดินทางด้านหน้าของตนนำมาวางบนลงศีรษะ แล้วกราบลงพื้น 3 ครั้ง พร้อมกล่าวคำว่า พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม แล้วลุกขึ้นกว้าสู่บนเวที ก่อนข้ามเชือกสังเวียน ให้พนมมือเสกคาถาว่า เอวัง พุทธัง สาระนัง ธัมมัง สังฆะจัง พร้อมกับพนมมือสูบเชือกเบิกทางปราบมารทั้งหลายทั้งปวง 3 ครั้ง หรือเสกคาถาอย่างอื่น เช่น คาถานาคบาษ คาถาคลายจักร พระเจ้าสิบทิศ เป็นต้น แล้วกระโดดข้ามเชือกเข้าสู่สังเวียน
(สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, 2540)
            การไหว้ครูร่ายรำมวยไทย มีแบบฉบับเป็นของตนเองในแต่ละสำนักสุดแท้แต่จะประยุกต์ใช้ให้เกิดความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของสำนักมวยตนเอง การร่ายรำนิยมกันมากมีท่าเทพพนม พรหมสี่หน้า ย่างสามขุม ย่างสุขเกษม เป็นต้น การไหว้ครูร่ายรำมวยไทย ของปรมาจารย์ครูกิมเส็ง  ทวีสิทธิ์ ที่แพร่หลายคือ ท่าย่างสามขุม ย่างสุขเกษม มวยไชยา มีท่าเสือลากหาง ส่วนมวยท่าเสา มีท่าหนุมานส่องเมฆ และไต่เมฆ ท่าไหว้ครูร่ายรำมวยไทยจากสำนักมวยท่าเสา เป็นการไหว้ครูร่ายรำท่าหนุมานส่องเมฆสายมวยท่าเสา จะนับถือพระอิศวรเป็นผู้ ประสิทธิประสาทวิชาการต่อสู้และร่ายรำให้ การไหว้ครูร่ายรำมวยไทยท่าเสา จะแบ่งออกเป็น  2 ตอนคือ
            1. การเดินไปกราบบรมครูปี่กลองที่บรรเลงเพลง ซึ่งวงปี่กลองก่อนทำการบรรเลงเพลงจะทำการบูชาครูไว้ก่อนแล้ว ต่อไปจะเดินไปกราบพระรัตนตรัยยังทิศที่ผีฟ้าไม่ข้ามคือ ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) หลังจากนั้นจะหมอบลงบริกรรมคาถาอาคมตามที่ได้รำเรียนมา แต่บางคนก็นั่งคุกเข่าบริกรรมคาถาอาคมบทต่าง ๆ เช่น นะทรหด นะธนูมือ นะคงกะพันชาตรี เป็นต้น พร้อมลำรึกถึงคุณบิดา มารดา ครูอาจารย์ และขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายและครูสายมวยของตนให้ปกปักรักษาตนเองให้แคล้วคลาดปลอดภัย อย่าได้เพลี่ยงพล้ำแก่คู่ต่อสู้ แล้วกราบครูบาอาจารย์ด้วยการพนมมือทั้งสองข้างอยู่ในระดับอก แล้วยกมือขึ้นระดับหน้าผากแล้วกราบด้วยมือซ้ายลงวางกับพื้น โดยหันฝ่ามือลงสู่พื้นวางแขนราบกับพื้นจดศอก พร้อมวางเข่าซ้ายลงกับพื้นตามด้วยมือขวาทำลักษณะเดียวกันกับมือซ้ายแต่ให้วางมือขวาเลยมือซ้ายขึ้นไปประมาณหนึ่งคืบพร้อมวางเข่าขวาลงกับพื้น แล้วขยับมือซ้ายขึ้นไปคู่กับมือขวาลักษณะการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ แล้วก้มศีรษะลงจดพื้น เมื่อกราบเสร็จแล้วให้นำมือกลับมาสู่ระดับอก กระทำ 3 ครั้ง                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น